เมนู

จุดประทีปพันดวง. บทว่า สีลวนฺโต ความว่า ตั้งอยู่ในความเป็นอุบาสก
ประกอบด้วยศีล 5 บ้าง ศีล 10 บ้าง. บทว่า ธมฺเมน ทารํ โปเสนฺติ
ได้แก่ ไม่กระทำโจรกรรมมีการทำลายอุโมงค์เป็นต้นแล้ว เลี้ยงดูบุตรภรรยา
ด้วยกสิกรรม โครักขกรรมและวานิชกรรมเป็นต้น. บทว่า ปมุโข รถมารุหิ
ได้แก่ เป็นประมุขคือเป็นผู้ประเสริฐ ของเทพทั้งหลาย เสด็จขึ้นรถ.
จบอรรถกถาปฐมสักกนมัสสนสูตรที่ 8

9. ทุติยสักกนมัสสนสูตร

ท้าวสักกะนมัสการพระพุทธเจ้า



[933] สาวัตถีนิทาน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพได้ตรัสกะ
มาตลีสังคาหกเทพบุตรว่า ดูก่อนสหายมาตลี ท่านจงเตรียมจัดรถม้าอาชาไนย
ซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัว เราจะไปยังพื้นที่อุทยานเพื่อชมภูมิภาคอันงดงาม ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรทูลรับพระดำรัสท้าวสักกะจอมเทพว่า
ขอเดชะ ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว จัดเตรียมรถม้าอาชาไนย
ซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวเสร็จแล้ว กราบทูลแก่ท้าวสักกะจอมเทพว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้นิรทุกข์ รถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวสำหรับพระองค์ จัด
เตรียมไว้เสร็จแล้ว ขอพระองค์ทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ได้ทราบว่า ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพขณะเสด็จลงจากเวชยันต-
ปราสาท ทรงประณมอัญชลีนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่.

[934] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตร
ได้ทูลถามท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า
ข้าแต่ท้าววาสวะ เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลายย่อมนอบน้อมพระองค์นั่นเทียว
ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อเช่นนั้น พระองค์
ทรงนอบน้อมท่านผู้ควรบูชาคนใด ท่าน
ผู้ควรบูชาคนนั้น คือ ใครเล่า.

[935] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
ดูก่อนมาตลี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ใด ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เรา
นอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ผู้เป็นศาสดามีพระนามไม่ทราม
ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดสำรอกราคะ
โทสะและอวิชชาแล้ว เป็นพระอรหันต
ขีณาสพ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น
ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดกำจัดราคะ และ
โทสะก้าวล่วงอวิชชา ยังเป็นพระเสขะ
ยินดีในธรรมเครื่องปราศจากการสั่งสม
เป็นผู้ไม่ประมาท ตามศึกษาอยู่ เรา
นอบน้อมท่านเหล่านั้น.

[936] มาตลีเทพบุตรทูลว่า
ข้าแต่ท้าวสักกะ ได้ยินว่าพระองค์
ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด บุคคล

เหล่านั้นเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลกเทียว
ข้าแต่ท้าววาสวะ พระองค์ทรงนอบน้อม
บุคคลเหล่าใด แม้ข้าพระองค์ก็ขอนอบ-
น้อมบุคคลเหล่านั้น.

[937] ท้าวมฆวาสุชัมบดีเทวราช ผู้เป็น
ประมุขของเทวดาทั้งหลาย ครั้นตรัสดังนี้
แล้ว ทรงน้อมนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วเสด็จขึ้นรถ.


อรรถกถาทุติยสักกนมัสสนสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในทุติยสักกนมัสสนสูตรที่ 9 ต่อไปนี้ :-
บทว่า ภควนฺตํ นมสฺสติ ความว่า ท้าวสักกะ พาดผ้าสองชั้น
เฉวียงบ่านั่งคุกเข่าแบบพรหม ประณมมือเหนือพระเศียร. บทว่า โส ยกฺโข
ได้แก่ สัตว์นั้น. บทว่า อโนมนามํ ได้แก่ มีพระนามไม่ทรามด้วย
พระนามอันเป็นนิมิตแห่งคุณ เพราะไม่มีความทรามด้วยคุณทั้งปวง. บทว่า
อวิชฺชาสมติกฺกมา ได้แก่ ก้าวล่วงอวิชชาอันมีวัฏฏะเป็นมูล อันปกปิด
อริยสัจ เป็นต้น. บทว่า เสกฺขา ได้แก่ พระเสกขะ 7 จำพวก. บทว่า
อปจฺจยารามา คือยินดีในการกำจัดวัฏฏะ. บทว่า สิกฺขเร แปลว่า ย่อม
ศึกษา.
จบอรรถกถาทุติยสักกนมัสสนสูตรที่ 9